Popular Posts

Monday, April 22, 2013

สมุนไพรที่มีเเก้เสื่อมสมรรถภาพทางเพศ


สมุนไพรที่มีเเก้เสื่อมสมรรถภาพทางเพศ
 
ทางการแพทย์ได้มีการคิดค้นวิธีการรักษา “โรคเสื่อมสมรรถภาพทางเพศ” หรือ “sexual dysfunction” กันอย่างต่อเนื่อง โดยมีการพัฒนายาตำรับใหม่ๆ มาใช้อยู่ตลอดเวลา ด้วยความหวังว่าจะทำให้สมรรถภาพทางเพศคงคู่อยู่กับเราไปนานๆ แต่ยาส่วนใหญ่ก็มีราคาสูงเกินเอื้อมสำหรับผู้ป่วยหลายๆ ราย ด้วยเหตุนี้จึงอยากแนะนำสมุนไพรไทยไว้เป็นอีกหนึ่งทางเลือก โดยบางอย่างก็สามารถหาได้ง่ายมาก เพราะเป็นผักแนมที่กินกับน้ำพริกอยู่แล้ว แต่บางชนิดก็ไม่เป็นที่คุ้นเคยของคนรุ่นใหม่นัก ก็ขอให้ถือเสียว่าเป็นการช่วยกันเผยแพร่สรรพคุณของสมุนไพรไทย ไม่ให้จางหายไปจากสังคมไทย
กลิ้งกลางดงลักษณะ เป็นไม้เลื้อยเถาเนื้ออ่อนทอดยาว กิ่งก้านมีน้ำยางสีแดง ลำต้นบนดินมีอายุเพียงปีเดียว งอกมาจากหัวใต้ดินขนาดใหญ่ เป็นหัวทรงกลม ผิวมีทั้งชนิดขรุขระและเรียบ ใบเป็นใบเดี่ยวมีรูปไข่แกมสามเหลี่ยมกว้าง ผิวใบด้านล่างมีขนละเอียด ดอกอกเป็นช่อกระจุกทีซอกใบ แยกเพศดอกตัวผู้กลีบส้มช่อยาวราว 4-16 เซนติเมตร ช่อดอกตัวเมียอัดกันแน่นเป็นกลุ่ม ผลสดเป็นรูปไข่กลับหัว ส่วนหัวจะกลมแป้นแบบลูกฟุตบอล เปลือกหัวสีน้ำตาล เนื้อในสีขาวนวล รสชาติมันและเฝื่อนเล็กน้อย
การนำมาใช้ นำหัวมาผ่าเอาเปลือกออก แล้วหั่นเนื้อที่มีสีขาวนวลคล้ายมันแกวเป็นชิ้นบางๆ ตากแดดให้แห้งนำไปต้มน้ำดื่ม หรือเอาหัวสดๆ ที่หั่นบางๆ ดองกับเหล้าขาวดื่มครั้งละ 1 เป๊ก ใช้เป็นยาบำรุงกำลัง และบำรุงกำหนัดทางเพศ โดยดื่มหลังอาหารเย็นก่อนนอน หลังจากดื่มไปประมาณ 1 สัปดาห์ จะช่วยเกิดอารมณ์ทางเพศมากขึ้น และยังช่วยให้หลั่งช้าลงอีกด้วย
ปลาไหลเผือกลักษณะ เป็นไม้พุ่มขนาดกลาง มีลำต้นสีแดง (ในป่าดงดิบอาจสูงได้ถึงประมาณ 6-15 เมตร) ไม่แตกกิ่งก้านทางด้านข้าง จะมีใบอยู่ตรงส่วนยอดของลำต้น ใบยาวประมาณ 1 เมตร ประกอบด้วยใบย่อยจำนวนมาก โดยใบย่อยจะมีขนและรูปร่างแหลมหรือรูปไข่ ดอกสีแดงยาว 10-15 มิลลิเมตร มีทั้งดอกตัวผู้และดอกตัวเมียออกรวมกันเป็นช่อใหญ่ ผลสีน้ำตาล รูปร่างคล้ายรูปไข่ ขนาดกว้าง 5-12 มิลลิเมตร ยาว 10-17 มิลลิเมตร ส่วนรากจะมีลักษณะคล้ายปลาไหลเผือก คือเป็นรากเดียว สีขาว และมีลักษณะยาว ซึ่งบางครั้งก็ยาวมากๆ
การนำมาใช้ นำ “แก่นและราก” ของปลาไหลเผือกมาต้มน้ำ กินวันละ 3-4 ครั้งและก่อนนอนโดยเชื่อว่าสามารถบำรุงกำลังได้ด้วย นอกจากบำรุงสมรรถภาพทางเพศ
ม้ากระทืบโรง ลักษณะ เป็นไม้เถาหรือไม้เลื้อย ซึ่งจะไปเกาะพันตามต้นไม้อื่นๆ ลำต้นมีลักษณะตะปุ่มตะป่ำคล้ายต้นหนามหรือต้นงิ้ว มีเปลือกสีน้ำตาล มีใบแบบใบเดี่ยวเป็นร่องคล้ายใบละมุด ลักษณะใบคล้ายหอกหรือรูปไข่แกมวงรี ดอกจะออกเป็นช่อลักษณะทรงกลม ฐานรองดอกรูปทรงกลม ดอกมีสีขาวนวล
การนำมาใช้ เราจะใช้ต้นและเถาดองกับเหล้า แล้วดื่มเพื่อเพิ่มความกำหนัด แก้อ่อนเพลีย โดยว่ากันว่ามีสรรพคุณในการบำรุงร่างกาย และเสริมพลังทางเพศ เมื่อกินไปครบ 3 วัน จะเริ่มรู้สึกคักคัก และอึด มีเพศสัมพันธ์ได้หลายครั้งโดยไม่รู้สึกอ่อนเพลีย
โด่ไม่รู้ล้มลักษณะ เป็นไม้ล้มลุกลำต้นตั้งตรง สั้น อยู่ในระดับพื้นผิวดิน ใบมีลักษณะเรียวยาว มีขนใต้ใบ ขอบใบหยักเป็นฟันเลื่อย เรียงสลับเป็นวงรอบที่โคนต้น ดอกและช่อดอกแทงออกจากกลางต้น ชูสูงกว่าพุ่มใบ กลีบดอกเป็นสีม่วงออกเป็นกระจุก เวลาแห้งจะเป็นสีน้ำตาลเจือขาว และหากเดินไปเหยียบ อีกสักพักจะชูขึ้นใหม่
การนำมาใช้ เราจะใช้ทุกส่วนของต้นแบบถอนราก ถอนโคน โดยล้างน้ำให้สะอาด นำมาสับให้เป็นชิ้นเล็กๆ แล้วนำไปตากแห้ง หลังจากนั้นก็บดให้ละเอียดใช้ชงกินกับน้ำ หรือนำผงไปดองเหล้า น้ำจะออกสีเหลืองๆ หรือนำมาต้มกินก็ได้ หรือจะนำมากินสดๆ ก็ไม่ผิดกติกา โดยเมื่อรับประทานไป 3-4 วัน จะรู้สึกถึงพลังกระชุ่มกระชวย ช่วยบำรุงความกำหนัด
สาวร้อยผัว หรือ ต้นรากสามสิบ ลักษณะ เป็นไม้พุ่มที่มีเหง้าและรากใต้ดินคล้ายกระชาย ลำต้นบนดินจะเป็นไม้เลื้อย มีหนามแหลม สูง 10.5 -4 เมตร ใบเดี่ยว เรียงสลับ ลดรูปลงเป็นเส้นแคบยาว กว้าง 0.5-1 มิลลิเมตร ยาว 10-36 มิลลิเมตร ดอกเป็นช่อออกที่ปลายกิ่งหรือซอกใบ กลีบรวมสีขาว ผลสดจะมีสีแดงหรือม่วงแดง รูปร่างค่อนข้างกลม จัดเป็นพืชตระกูลเดียวกับหน่อไม้ฝรั่ง
การนำมาใช้ ปกติจะใช้ยอดอ่อน ผลอ่อน หน่ออ่อนสำหรับรับประทานเป็นผัก โดยอาจจะรับประทานแบบสดๆ หรือจะนำไปต้มใส่แกงก็ได้ สำหรับสรรพคุณทางยานั้น เราจะนำรากมาต้มกินน้ำ หรือนำรากมาตากแห้งแล้วบดปั้นเป็นลูกกลอนกินกับน้ำผึ้งก็ได้ โดยเชื่อว่าเมื่อผู้หญิงได้กินจะรู้สึกว่ากลับมาเป็นสาวอีกครั้ง และใช้แก้ไขเกี่ยวกับอาการผิดปกติของอวัยวะเพศสตรีและมดลูก เช่น ประจำเดือนมาไม่ปกติ รวมถึงแก้ไขในเรื่องการหมดอารมณ์ทางเพศ ในประเทศอินเดียพบว่ามีการนำพืชชนิดนี้ไปใช้เพิ่มสมรรถภาพทางเพศในผู้ชายด้วย โดยนำไปดองเหล้า หรือคั้นกินสดๆเลยก็ได้
ที่มา sanook.com

No comments:

Post a Comment